

ขอรวบรัดกล่าวโดยสรุป คือ เรือนเป็นผลของเหตุการณ์หรือเรื่องราวเสมอ ดังอย่างด้านล่างนี้
- เรือนเป็นผลจากดาวกุม ยกตัวอย่าง
- รายได้เกิดจากผู้ใหญ่ผู้มีบุญ (ดวงชะตามีดาวพฤหัสบดีกุมในเรือนกดุมภะ) – ลักษณะรายได้เป็นผลจากดาวพฤหัสบดี
- ตนเองเดือนร้อน (ดวงชะตามีดาวอังคารกุมในเรือนตนุ) – ลักษณะตนเองเป็นผลจากดาวอังคาร
- บุตรหลานหน้าตาดี น่ารัก (ดวงชะตามีดาวศุกร์กุมในเรือนปุตตะ) – ลักษณะบุตรหลานเป็นผลจากดาวศุกร์
- เรือนเป็นผลจากราศี ยกตัวอย่าง
- รายได้เกิดจากชัยชนะ (ดวงชะตามีเส้นแบ่งเรือนที่ 2 ในราศีสิงห์) – ลักษณะรายได้เป็นผลมาจากราศีสิงห์
- ตนเองมีพฤติกรรมใส่ใจบ้านช่องห้องหอ (ดวงชะตามีเส้นแบ่งเรือนที่ 1 ในราศีกรกฏ) – ลักษณะตนเองเป็นผลมาจากราศีกรกฏ
- ลูกหลานเป็นนักสู้ (ดวงชะตามีเส้นแบ่งเรือนที่ 5 ในราศีพิจิก)
- จับรวม – เรือนเป็นผลจากดาวและราศีที่กุม ดังนี้
- รายได้เกิดจากผู้ใหญ่ที่ประสบความสำเร็จ
- ตนเองขยันใส่ใจจนเดือดร้อน
- บุตาหลานหน้าตาดีเป็นนักเสียสละ
เราอาจสังเกตได้ว่าตัวที่เปลี่ยนสถานะของราศีและดาวให้เกิดความหมายเฉพาะของแต่ละบุคคล คือ “เรือน” ของแต่ละดวงชะตา นักศึกษาโหราศาสตร์ควรถือเรือนเป็นจุดอ้างอิงหลัก ส่วนดวงดาวและราศีที่กุมเรือนที่ปรากฏเป็นผลกรรมที่ใช้อธิบาย สิ่งที่เจ้าชะตาประสบในชีวิตชาติปัจจุบัน
ดาวกำเนิดมีผลและให้พลังงานตลอดชีวิต และดาวจรแสดงผลเป็นช่วงระยะเวลาหนึ่ง ส่วนราศีมีสภาพคงสภาพลักษณะไม่เปลี่ยนแปลงโดยง่ายในช่วงชีวิตมนุษย์หนึ่ง
ความหมายของเรือน, ดาว, และราศี มีมากมายนับอนันต์ ในทางโหราศาสตร์ท่านหยิบมาเพียงบางความหมาย นักศึกษาพึงเทียบเคียงความหมายต่างๆในชีวิตประจำวันบ่อยๆ จะเป็นนักโหราศาสตร์ที่มีคุณภาพด้วยตัวของท่านเอง
หวังว่าทุกท่านจะสามารถใช้ดวงชะตาให้เป็นได้อย่างเด็ดขาดและเด็ดเดี่ยว ทั้งได้รับความสำเร็จสมปราถนาในสิ่งพึ่งได้ประสงค์ทุกประการในชาตินี้
You must be logged in to post a comment.