เอกโหรา – เรือน 1, 4, 7, 10 สำคัญต่อวาสนาใหญ่ ควรเลือกพิจารณาก่อน

บทความนี้จะช่วยให้นักศึกษาโหราศาสตร์สามารถเข้าใจความหมายของดวงใหญ่หรือดวงเล็กได้ชัดเจนมากขึ้น

ก่อนอื่น ท่านต้องเข้าใจให้ดีว่า ระบบ 12 ราศีและระบบ 12 เรือน โดยแท้จริงแล้วเป็นสิ่งเดียวกัน* สามารถใช้อุปมาเปรียบเทียบกันไปได้ ยกตัวอย่าง ราศีที่หนึ่ง คือ เมษ ซึ่งก็มีความหมายว่า เรือนที่ 1 หรือ เรือนตนุ, หรือราศีที่สอง คือ พฤษภ ซึ่งก็มีความหมายว่า เรือนที่ 2 หรือ เรือนกดุมภะด้วย จากนั้นก็ไล่ไปตามนัยยะตัวอย่าง จนครบทั้ง 12 ราศี ท่านก็ได้เท่ากับ 12 เรือนพอดี

เมื่อเข้าใจถี่ถ้วนในข้อ 1 แล้ว ก็ให้มาพิจารณาระบบธาตุ 4 ท่านจะพบว่า เรือนทั้ง 4 นั้น มีต้นธาตุครบทั้ง 4 ธาตุ กล่าวคือ
เริ่มต้นธาตุไฟ ที่ราศีเมษ,​ เริ่มต้นธาตุน้ำที่ราศีกรกฏ, เริ่มต้นธาตุลมที่ราศีตุลย์,​ และเริ่มต้นธาตุดินที่ราศีมะกร

กลุ่มต้นธาตุแสดงถึงภาวะการเกิดขึ้นของสรรพสิ่ง ผู้เกิดเกี่ยวข้องราศีต้นธาตุจึงมีกำลังโดยธรรมชาติในการขับเคลื่อนริเริ่มไปสู่สิ่งใหญ่

โหรโบราณจึงมีกล่าวว่าผู้เกิดเรือนเกณฑ์ (1, 4, 7,10) มีวาสนา

ในการทายโครงสร้างดวงให้นักศึกษาไล่น้ำหนัก จาก เรือนเกณฑ์ > ราศีเกณฑ์ > ดาวเกษตรบดี หรือ อุจจ์

เมื่อมีผู้มาขอรับคำพยากรณ์ให้พิจารณาดูเรือนเกณฑ์ทั้ง 4 ของดวงชะตาเขาก่อน หากพบว่าเรือนเกณฑ์ทั้ง 4 ตรงกับราศีเกณฑ์ด้วยก็นับว่าดวงน่าสนใจสามารถสร้างสิ่งอัศจรรย์ได้ และหากพบว่ามีดาวเกษตรบดี หรือ อุจจ์อยู่ในเรือนเกณฑ์ทั้ง 4 ด้วย ก็เป็นดวงที่น่าสนใจมากขึ้นไป ดวงประเภทนี้ดูง่ายและชีวิตมีความชัดเจน หากมุมสัมพันธ์ดาวสอดคล้องได้อะไรมาไม่ยากเลย

เรือนเกณฑ์จะมีกำลังลดหลั่นกันลงไป โดยหากมีดาวกุม 0° กับจุดเรือนเกณฑ์ (ระบบเรือนไม่เท่าราศี) มีกำลังสูงสุด และหากเป็นดาวใหญ่อาทิ อาทิตย์,​ พฤหัสบดี, เสาร์ ก็ถือว่ากำลังสนับสนุนจากธรรมชาติของสุริยะจักรวาลมหาศาลทีเดียว ในการคำนวนล่วงหน้าให้นักโหราศาสตร์สามารถมองหาได้จากปฏิทิน และโปรแกรมสูตรคำนวนของนักวิทยาศาสตร์

ภาพแสดง วันที่ดาวอาทิตย์และดาวพฤหัสบดีเข้าราศีเกณฑ์เมษและกรกฏ ได้ความเป็นมหาอุจจ์ทั้งอาทิตย์และพฤหัสบดี หากจุดเรือน 1 หรือเรือน 10 ได้องศาสัมพันธ์กุมสนิท ความเป็นอภิมหา.. ด้านต่างๆ ไม่ใช่เรืองยาก | ตัวอย่างดวงนี้ จะเกิดขึ้นในวันที่ 21 Mar 2073

ขยายความเรื่อง *ระบบ 12 ราศีและระบบ 12 เรือน โดยแท้จริงแล้วเป็นสิ่งเดียวกัน ยกตัวอย่าง ว่าท่านต้องการพยากรณ์ทรัพย์ชนิดกดุมภะ ท่านจะดูเฉพาะดาวในเรือนอย่างเดียวก็พอได้ แต่ยังไม่ครบทั้งระบบ ฉะนั้นท่านต้องดูซ้อนๆกันทั้งระบบ กล่าวคือ

  1. ประเภทกำลังแรง ดูเรือน 2 กดุมภะของดวงชะตากำเนิด ว่าจุดองศาของเรือน 2 (ระบบเรือนไม่เท่าราศี) มีดาวอะไรลอยอยู่ที่ 0° และได้มุมสัมพันธ์เชิงแข็งแกร่ง (strong aspect) 90°, 180°, และ 270° และ soft aspect กับดาวอะไรบ้าง
  2. ประเภทกำลังแรงลดลงมา ดูดาวที่ลอยอยู่ในเรือน 2 และหากมุมสัมพันธ์ของดาวนั้นกับดาวอื่นๆ เช่นเดียวกับข้อ 1
  3. ประเภทกำลังอ่อน ดูจุด 0° ของราศีพฤภษ ว่าสัมพันธ์ strong – soft aspect กับดาวอะไรบ้าง
  4. ดูดาวในราศีพฤษภ และหามุมสัมพันธ์ว่าสอดคล้องกับ ปัจจัย** อะไรบ้าง
  5. ดูดาวศุกร์ (กรณีเกษตร 2 เรือน) ว่ามีมุมสัมพันธ์ว่าสอดคล้องกับ ปัจจัย** อะไรบ้าง

ปัจจัย** ในที่นี้หมายถึง จุดทุกจุด เช่น จุดเริ่มต้นของ 12 ราศี, จุดเริ่มต้นของ 12 เรือน, จุดตัดของราหู, จุดตัดของลัคนา, จุดตัดของทศมลัคน์, รวมถึงตำแหน่งดาวจริง, ดาวเคราะห์น้อย, ดาวเคราะห์แคระ, จุดปัจจัยอารบิค เป็นต้น

Advertisement